ในบทความชุดนี้
ต้องการจะนำเสนอว่า กิเลสอยู่ที่ไหน? และได้กล่าวไปแล้วว่า อยู่ในขันธ์ 5 จึงต้องกล่าวถึง “ขันธ์ 5” ให้เข้ากันตรงกันเสียก่อน
ในบทความก่อนหน้านี้
ได้อธิบายไปแล้วว่า ที่อนัตตลักขณสูตรกล่าวว่า ขันธ์ 5 ไม่ใช่ตัวตนของเรานั้น ถูกต้องแล้ว
แต่ไม่ใช่ว่า
“ตัวตนไม่มี” ตัวตนของเราๆ ท่านๆ ทั้งหลายต้องมี ซึ่งก็คือ “กำเนิดเดิม”
กำเนิดเดิมนั้น
เป็นส่วนละเอียดของขันธ์ 5
หลวงพ่อวัดปากน้ำได้อธิบายถึงองค์ประกอบของกำเนิดเดิมแล้วว่า
ประกอบด้วย กำเนิดกาย กำเนิดเห็น กำเนิดจำ กำเนิดคิด และกำเนิดรู้
กำเนิดเดิมนี่แหละ
ที่เป็นตัวไปเกิดมาเกิด เป็นตัวที่เก็บข้อมูลบุญ-บาป กำเนิดเดิมเดิมนี่แหละ ที่จะเป็นตัวไปหาขันธ์ 5
ส่วนหยาบข้างหน้า
กำเนิดเดิมนี่แหละคือ ตัวตนของเรา
ขอย้ำว่า
กำเนิดเดิมยังตกอยู่ในพระไตรลักษณ์ คือ เป็นอนิจจัง ทุกขัง อนัตตา และขอย้ำแบบยกกำลังสองว่า กำเนิดเดิมไม่ใช่
“อัตตาแบบพราหมณ์”
หลวงพ่อวัดปากน้ำเขียนเรื่อง
“กำเนิดธาตุธรรมเดิม”
ไว้ในหนังสือมรรคผลพิสดาร หน้า 27 ดังนี้
กำเนิดธาตุธรรมเดิมกับขันธ์ ๕ นั้น ต่างกันคนละอย่าง
ไม่ใช่อย่างเดียวกัน คือ
กำเนิดธาตุธรรมเดิมนั้น เป็นพืชเดิมที่จะก่อเป็นขันธ์ ๕ ขึ้น …
กำเนิดธาตุธรรมเดิมของมนุษย์ ตั้งอยู่ศูนย์กลางกายฐานที่ ๖
ที่ภายในสะดือเข้าไป เห็นดวงกลมใส สะอาดบริสุทธิ์ ประมาณเท่าปลายเข็ม
หรือเท่าเมล็ดโพธิ์ เมล็ดไทร
นี่เป็นพืชเดิม เกิดมีขึ้นก่อน …
|
ในทางวิชาธรรมกายนั้น
“ธรรมะ” ไม่ว่าจะเป็นหัวข้อใด
ในส่วนละเอียดจะเป็น “ดวงกลม”
ทั้งสิ้น กำเนิดธาตุธรรมเดิม
หรือกำเนิดเดิมนั้น เป็นดวงกลมใส
ข้อความตรงนี้
สอดคล้องกับ พระไตรปิฎก เล่มที่ ๒๐
พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๑๒ อังคุตตรนิกาย เอก-ทุก-ติกนิบาต ดังนี้
ดูกรภิกษุทั้งหลาย เราย่อมไม่เล็งเห็นธรรมอื่นแม้อย่างหนึ่ง
ที่เปลี่ยนแปลงได้เร็ว เหมือนจิต
ดูกรภิกษุทั้งหลาย จิตเปลี่ยนแปลงได้เร็วเท่าใดนั้น
แม้จะอุปมาก็กระทำได้มิใช่ง่าย ฯ
ดูกรภิกษุทั้งหลาย จิตนี้ผุดผ่อง แต่ว่าจิตนั้นแล
เศร้าหมองด้วยอุปกิเลสที่จรมา ฯ
ดูกรภิกษุทั้งหลาย จิตนี้ผุดผ่อง และจิตนั้นแล
พ้นวิเศษแล้วจากอุปกิเลสที่จรมา ฯ
|
หลวงพ่อวัดปากน้ำเขียนเรื่อง
“กำเนิดธาตุธรรมเดิม” ต่อมาอีก ในหน้า
27-28 ดังนี้
กำหนดธาตุธรรมเดิมนั้น ขยายเป็นส่วนท่ามกลาง
และเป็นส่วนหยาบออกมาก็เป็นดวงกลมใสสะอาดบริสุทธิ์
หุ้มอยู่ชั้นนอกของกำเนิดธาตุธรรมเดิมส่วนที่ละเอียด
ดวงกลมอย่างหยาบท่ามกลางนี้แหละ จะตั้งปฏิสนธิกำเนิดเป็นขันธ์ ๕
ร่างกายของมนุษย์เป็นเบื้องต้น
ตั้งแต่เท่าหยาดน้ำมันงาอันใส ซึ่งติดอยู่ปลายขนจามจุรี
อันบุรุษผู้มีกำลังปานกลาง สลัดเสียแล้ว ๗ ครั้ง เป็นกลละรูป
|
ตรงนี้
ก็ยิ่งชัดเจนขึ้นไปใหญ่ คือ กำเนิดเดิมนั้นคือ ตัวตนของเรา กำเนิดเดิมที่ขยายหยาบขึ้นมา คือ ตัวขันธ์ ๕
ขันธ์ ๕ นี้เปรียบเสมือนบ้านของคน
กำเนิดเดิมก็คือคน
หรืออาจจะเปรียบเทียบได้อีกอย่างหนึ่งก็คือ ขันน้ำกับน้ำ
ขันเปรียบได้กับขันธ์
5 ส่วนน้ำในขัน ก็คือ กำเนิดเดิม อันเป็นตัวตนของเรา
ดวงกลมที่เป็นกลละรูปของหลวงพ่อวัดปากน้ำนั้น
ก็สอดคล้องกับพระไตรปิฎก เล่มที่ ๑๕
พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๗ สังยุตตนิกาย สคาถวรรค ยักขสังยุต อินทกสูตรที่ ๑
ดังนี้
[๘๐๑] ข้าพเจ้าได้สดับมาแล้วอย่างนี้
สมัยหนึ่ง พระผู้มีพระภาคประทับอยู่บนภูเขาอินทกูฏ
ซึ่งอินทกยักษ์ครอบครอง เขตกรุงราชคฤห์ ฯ
[๘๐๒] ครั้งนั้นแล
อินทกยักษ์เข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคถึงที่ประทับครั้นแล้วได้กราบทูลด้วยคาถาว่า "[ถ้า]
ท่านผู้รู้ทั้งหลายกล่าวว่า รูปหาใช่ชีพไม่ สัตว์นี้จะประสพ
ร่างกายนี้ได้อย่างไรหนอ กระดูกและก้อนเนื้อจะมาแต่ไหน
สัตว์นี้จะติดอยู่ในครรภ์ได้อย่างไร"
[๘๐๓] พระผู้มีพระภาคตรัสว่า "รูปนี้เป็นกลละก่อน จากกลละเป็นอัพพุทะ จากอัพพุทะเกิดเป็นเปสิ
จากเปสิเกิดเป็นฆนะ จากฆนะเกิดเป็น ๕
ปุ่ม (ปัญจสาขา) ต่อจากนั้น มีผมขน และเล็บ (เป็นต้น) เกิดขึ้น
มารดาของสัตว์ในครรภ์บริโภคข้าวน้ำโภชนาหารอย่างใด สัตว์ผู้อยู่ในครรภ์มารดา
ก็ยังอัตภาพให้เป็นไปด้วยอาหารอย่างนั้นในครรภ์นั้น" ฯ
|
ขอสรุปประเด็นที่เกี่ยวกับกำเนิดเดิมหรือตัวตนของเรากับขันธ์
5 ด้วยข้อเขียนของคุณลุงการุณย์ บุญมานุชในหนังสือ หน้า 116 ดังนี้
สรุปว่า กำเนิดเดิมมีขึ้นก่อน ขันธ์ ๕ เกิดตามทีหลัง
ขันธ์ ๕ มีขึ้นในวันที่ปฏิสนธิ สิ่งที่เกิดพร้อมกับขันธ์ ๕ คือ
อายตนะ ๑๒ ธาตุ ๑๘ อินทรีย์ ๒๒
เมื่อกายมนุษย์เป็นอย่างนี้ กายละเอียดอื่นๆ
ของเราก็เป็นอย่างเดียวกัน คือ เกิดพร้อมกันหมด...
|
จากที่กล่าวมาทั้งหมดนั้น
จะเห็นได้ว่า ไม่มีพุทธวิชาการหรือนักปริยัติคนไหน สามารถอธิบายเรื่องขันธ์ 5
ได้เข้าใจอย่างชัดแจ้งเท่ากับหลวงพ่อวัดปากน้ำอีกแล้ว
นี่..หมายความรวมถึงสายปฏิบัติธรรมอื่นๆ
ด้วย
พวกเขาเหล่านั้น
พอเห็นข้อความในอนัตตลักขณสูตรที่ว่า “ขันธ์ 5
ไม่ใช่ตัวตนของเรา” ความที่
“ไม่รู้” และ “ไม่เห็น”
หรือถ้าจะกล่าวชัดๆ ก็คือ “ไม่มีญาณทัสสนะ” ใดๆ
จึงตีความเลยเถิด
เลยศาสนาพุทธไปว่า “ตัวตนไม่มี”
การตีความว่า
“ตัวตนไม่มี” นั้น เข้าข่าย “มิจฉาทิฐิ” เข้าไปแล้ว เพราะ เมื่อเชื่อว่า
“ตัวตนไม่มี” บุญ-บาปก็ต้องไม่มีไปด้วย เพราะ จะไม่มีผู้รับผลของบุญ-บาปที่
“ตัวตนของเรา” ทำขึ้น
อ่านแล้วมีคำถามว่ากรณีที่ไปทำศัลยกรรมมาทำให้หน้าปัจจุบันของกายมนุษย์หยาบให้ต่างจากหน้าเดิม
ตอบลบ1. กายมนุษย์ละเอียด จะหน้าตาเหมือนกับกายมนุษย์ปัจจุบันหลังทำศัลยกรรมแล้วหรือไม่
2. หากดูกำเนิดธาตุธรรมเดิมแล้วขยายให้ใหญ่จนเห็นกายของผู้นั้น หน้าตาของผู้นั้นจะเปลี่ยนไปตามกายมนุษย์หยาบที่ทำศัลยกรรมหรือไม่
คำถามน่าสนใจ ตอบไปก่อนตามความรู้ของผม แล้วผมจะไปถามคุณลุงอีกครั้งหนึ่ง
ตอบลบเอาประสบการณ์ก่อน เคยมีผู้หญิงมาถามผมว่า ตัวเขาจะเอาดวงนิมิตเข้าจมูกไหน ผมก็ตอบไปอย่างค่อนข้างหงุดหงิดใจเล็กๆ เพราะ สอนไปแล้วว่า "ก็เข้าจมูกซ้ายนะซิ"
คนถาม บอกมาว่า "เมื่อก่อนนี้ หนูเป็นผู้ชาย" ผมก็งงเต็กเหมือนกัน
โดยสรุป การนำนิมิตเข้าจมูกให้ทำตาม "เพศปัจจุบัน" น้องปอย ตรีชฎา ถ้ามาเรียนก็ต้องเอาเข้าจมูกซ้าย
ดังนั้น คำถามของคุณนั้น กายมนุษย์ละเอียดต้องคล้ายกับหน้าที่ผ่าตัดแล้ว
แต่การผ่าตัดนั้น ตามปกติมันไม่ได้ทำให้หน้าเปลี่ยนไปจนไม่เหลือเค้าเดิม
เรื่องนี้ น่าสนใสก็คือ ถ้ามีคนผ่าตัดเปลี่ยนหน้า เหมือนหนังเรื่อง "Face Off สลับหน้าล่าล้างนรก"
หน้าของกายมนุษย์ละเอียดจะเปลี่ยนหรือไม่
จากที่อ่านหนังสือของลุง ถ้าเห็นกำเนิดธาตุธรรมเดิม ให้ขยายให้ใหญ่แล้วจะเห็นกายนั้น
ตอบลบดังนั้นคำถามที่น่าสนใจก็คือ หากผู้นั้นแปลงเพศหรือไปทำศัลยกรรมมา กายที่ขยายให้ใหญ่ที่กำเนิดธาตุธรรมเดิมจะเป็นกายปัจจุบันหรือกายก่อนหน้าที่ยังไม่ได้แปลงเพสและไปทำศัลยกรรมมา
อีกเรื่อง ในหนังสือมรรคผล 1 พบว่าตอนมาเกิดหากเข้าช่องจมูกผิด จะทำให้ผิดเพศตอนเป็นมนุษย์ แสดงว่าในการที่กลรูปจะเข้าปากช่องจมูกของบิดา และเข้าปากช่องจมูกของมารดาหลังประกอบธาตุธรรมแล้ว ขึ้นอยู่กับบุญกรรมในรอดีตของกำเนิดธาตุธรรมเดิมของกลรูปนั้นเป็นชนกกรรมให้เข้าปากช่องจมูกผิดหรือถูกต้อง ใช่หรือไม่
มันก็ต้องตอบไปอย่างนั้นแหละ มันก็ต้องเป็น "กรรม" ของเขา ถึงได้ทำผิดพลาดอย่างนั้น
ตอบลบไม่รู้ว่าจะมีคำตอบที่ละเอียดกว่านี้หรือไม่ คือ ผมไม่รู้จริงๆ
ไอ้การตอบว่า "เป็นกรรมของเขา" นี่ มันตอบเหมือนไม่ค่อยมีความรู้เท่าไหร่
แต่ตอนนี้ ก็ต้องตอบว่า "เป็นกรรมของเขานั่นแหละ" เพราะ ผมไม่รู้เรื่องละเอียดในเรื่องนี้
แต่ว่า คุณทำไมสนใจเรื่องนี้ เป็นกะเทยหรือไง หรือว่า มีเพื่อนเป็นกะเทย
งั้นฝากถามลุงให้หน่อยนะครับ มี 3 ข้อนะครับ
ตอบลบทบทวนคำถามให้ใหม่ด้วย อยากถามอะไรบ้าง
ตอบลบ