บริจาค

เห็นว่า..บล็อกนี้ดี มีประโยชน์... โปรดสนับสนุนผู้ทำบล็อกได้ที่ พร้อมเพย์ 083-4616989
หรือบัญชี 002-1-70462-8 กสิกรไทย สาขาบางลำภู

ขันธ์ 5 ของพระประยุทธ์



ในบทความชุดนี้ ผมได้เกริ่นนำไว้ตั้งแต่บทความแรกแล้วว่า “ทำอย่างไรถึงจะบรรลุมรรคผลนิพพาน” ได้

ผมได้สรุปการบรรลุมรรคผลนิพพานจากพระไตรปิฎกไปแล้ว  ในบทความชุดต่อไปนี้ จะนำเสนอว่า การบรรลุมรรคผลนิพพานในวิชาธรรมกายทำอย่างไร

ในบทความ “ประเภทของกิเลส” ผมได้นำเสนอไปแล้วว่า หลวงพ่อวัดปากน้ำเข้าใจกิเลสเป็นอย่างดี อธิบายและจัดประเภทได้อย่างสอดคล้องกับพระไตรปิฎก  

เมื่อรู้แล้วว่าประเภทของกิเลสเป็นอย่างไร  ในบทความนี้ ผมจึงต้องการจะนำเสนอว่า กิเลสอยู่ที่ไหนซึ่งต้องใช้คำอธิบายที่มากพอสมควร

ดังนั้น ในบทความแรกในส่วนนี้  จึงจะต้องอธิบาย “ขันธ์ 5” ให้เข้ากันตรงกันเสียก่อน เพราะ กิเลสมันก็เกิดกับ “ขันธ์ 5” นี่แหละ

ที่จำเป็นจะต้องมาอธิบายกันเรื่อง  “ขันธ์ 5”  เพราะ พุทธวิชาการหรือสายปฏิบัติธรรมไม่เข้าใจ “ขันธ์ 5”  เลย  จำกันมา และจำกันไปแบบมั่วๆ

ขนาดขันธ์ 5 ยังไม่เข้าใจ แล้วจะไปกำจัดกิเลสได้อย่างไร..

ขอยกตัวอย่างแรกเลย คือ ข้อเขียนของพระประยุทธ์พระเปลืองข้าวสุกประชาชนในหนังสือพุทธธรรม อันเป็นหนังสือธรรมะที่ห่วยแตกที่สุดเท่าที่ผมเคยอ่านมา

ผมได้จัดอันดับพระเลวในเมืองไทยยุคปัจจุบันไปแล้ว  พระเลวอันดับหนึ่งก็คือ พระประยุทธ์/พระเปลืองข้าวสุกประชาชน/พระธรรมปิฎก/พระพรหมคุณาภรณ์รูปนี้นี่แหละ

อยากจะรู้ว่าพระรูปนี้เลวจังไรอย่างไร ก็ไปอ่านได้ที่นี่

03-พุทธธรรมของพระประยุทธ์

พระประยุทธ์/พระเปลืองข้าวสุกประชาชนเขียนไว้ในหนังสือพุทธธรรม ในหน้าแรกของ “ตอน 1: ชีวิตคืออะไร? ก. ชีวิตตามสภาพของมันเอง ขันธ์ 5 ส่วนประกอบห้าอย่างของชีวิต” 

พระประยุทธ์พระเปลืองข้าวสุกประชาชนตั้งหัวข้อว่า “ตัวสภาวะ” แล้วขึ้นบรรทัดแรก ย่อหน้าแรกเลยดังนี้

พุทธธรรมมองเห็นสิ่งทั้งหลายในรูปของส่วนประกอบต่างๆ ที่มาประชุมกันเข้า ตัวตนแท้ๆ ของสิ่งทั้งหลายไม่มี

เมื่อแยกส่วนต่างๆ ที่มาประกอบกันเข้านั้น ออกไปหมด ก็จะไม่พบตัวตนของสิ่งนั้นเหลืออยู่


ต่อไปทั้งหมดที่เหลือ พระประยุทธ์พระเปลืองข้าวสุกประชาชนรูปนี้ ก็เพ้อเจ้อเรื่องขันธ์ 5 บ้าๆ บอๆ คือ เอาเรื่องโน้นมาใส่ เอาเรื่องนี้มาใส่ เพื่ออวดโตโอ้อวดว่า “กูอ่านหนังสือเยอะ

แต่ที่เอามาใส่นั้น ไม่ได้ช่วยให้เข้าใจเรื่องขันธ์ 5 ขึ้นมาเลย

ผมว่า ตัวพระประยุทธ์พระเปลืองข้าวสุกประชาชนก็ไม่เข้าใจ เขียนไปอย่างมึนๆ เมาๆ เพราะไปเชื่อวิทยาศาสตร์ว่า “ตายแล้วเกิดชาติเดียว” จึงอธิบายศาสนาพุทธแบบฉิบหายวายป่วงไปหมด

พระประยุทธ์พระเปลืองข้าวสุกประชาชนเขียนเน้นจังว่า “ตัวตนไม่มี” แล้วก็ไอ้ที่นั่งเขียนนั่งอ่าน นี่มันอะไร

ถ้าท่านจะทำให้ข้อเขียนของท่านแน่นหนาขึ้น  ท่านต้องทำ 2 ส่วนนี้ คือ

1) อธิบายให้ได้ว่า ไอ้ที่นั่งหัวโด่ ทั้งอ่านทั้งเขียน และทั้งโลกมีประมาณหกพันกว่าล้านคนนั้น มันไม่ใช่ตัวตนอย่างไร

นี่...เพ้อเจ้อไปอย่างเดียวว่า ตัวตนไม่มี ตัวตนไม่มี แล้วไม่อธิบายให้เข้าใจว่า ตัวตนไม่มีอย่างไร

ทะลึ่งไปยกตัวอย่างเรื่อง “รถ”  ก็รถมันไม่มี “ใจ/จิต/วิญญาณ” เหมือนคน มันไม่ควรเป็นตัวอย่างในเรื่องนี้

2) มีพุทธพจน์จำนวนมากที่ยืนยันว่า “ตัวตนมี” ถ้าพระประยุทธ์พระเปลืองข้าวสุกประชาชนเห็นว่า ตัวตนไม่มี ก็ต้องยกหลักฐานมาหักล้างข้อความเหล่านั้นให้ได้ 

ขอยกตัวอย่างเพียงบางส่วน ดังนี้

ตนเป็นที่พึ่งแห่งตน
อตฺตา   หิ  อตฺตโน  นาโถ
ชนะตนนั่นแหละประเสริฐกว่า
อตฺตา  หเว   ชิตํ  เสยฺโย
บัณฑิตย่อมฝึกตน
อตฺตานํ   ทมยนฺติ  ปณฺฑิตา
จงเตือนตนด้วยตนเอง
อตฺตนา   โจทยตฺตานํ
คนเห็นแก่ตัว   เป็นคนสกปรก
อตฺตตฺถปญฺญา   อสุจี  มนุสฺสา
เมื่อคบคนดีกว่าตน ตนเองก็ดีขึ้นมาทันที
เสฏฺฐมุปคมญฺจ   อุเทติ  ขิปฺปํ
ผู้ฝึกตนได้เป็นผู้ประเสริฐสุดในหมู่มนุษย์
ทนฺโต   เสฏฺโฐ  มนุสฺเสสุ

ทุกครั้งที่พระประยุทธ์พระเปลืองข้าวสุกประชาชนเขียนถึงว่า “ตัวตนไม่มี” พระประยุทธ์/พระเปลืองข้าวสุกประชาชนก็ทำเป็นหูหนวก ตาบอด เหมือนไม่เคยพบข้อความดังกล่าวมาก่อน

ไม่อ้างถึงเสียดื้อๆ 

ตามหลักการเขียนที่ดีแล้ว  เมื่อเราต้องการนำเสนอสิ่งใด เราก็หาเหตุผลมาสนับสนุนสิ่งที่เราต้องการนำเสนอ พร้อมกันนั้น เราก็ต้องหาหลักฐานมาหักล้าง “สิ่งที่ขัดแย้งกับสิ่งที่เรานำเสนอด้วย

พระประยุทธ์พระเปลืองข้าวสุกประชาชนเห็นว่า “ตัวตนไม่มี”  แต่มีพุทธพจน์จำนวนมากที่ยืนยันว่า “ตัวตนมี

ถ้าพระประยุทธ์พระเปลืองข้าวสุกประชาชนรูปนี้ มีปัญญาในด้านการคิดวิเคราะห์อยู่บ้าง ก็ควรหาหลักฐานมาหักล้าง แต่พระประยุทธ์พระเปลืองข้าวสุกประชาชนไม่เคยทำสิ่งเหล่านั้น

หนังสือพุทธธรรมจึงเป็นหนังสือที่ทำลายศาสนาพุทธอย่างถึงรากถึงโคน เพราะ พระประยุทธ์/พระเปลืองข้าวสุกประชาชนไปเชื่อวิทยาศาสตร์


ที่เขียนหนังสือธรรมะออกมามากๆ ก็เพื่อหน้าตาและความอยากดังเท่านั้น พระแบบนี้ก็มีด้วย ตายไปแล้ว อบายภูมิคือที่ไปอย่างแน่นอน...




ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น